“น้องข้าวหอม” ตัวแทนเยาวชนไทยรายการนาฏศิลป์เอเชียแปซิฟิกและตารางฝึกซ้อมอันหนักหน่วงเพื่อคว้าชัยชนะ

CSTD ไทยแลนด์ แดนซ์ กรังด์ปรีซ์ เป็นเวทีการแข่งขันเต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยที่มีพรสวรรค์ด้านการเต้นได้พัฒนาทักษะการเต้นในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งในแต่ละปีจะคัดเลือกนักเต้นที่ดีที่สุด เพื่อเป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยในปี 2566 ถือเป็นการแข่งขันครั้งที่ 10 และ”ข้าวหอม-ปาพิชญา น้อมทอง” เมื่ออายุ 14 ปี เป็นตัวแทนของเยาวชนไทยที่ได้บินไปแข่งขันระดับเอเชียที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียช่วงกลางเดือนสิงหาคม

สนุกได้มีโอกาสนั่งคุยกับข้าวหอม ก่อนเดินทางไปร่วมเวที Asia Pacific Dance Competition ครั้งที่ 25 กล่าวถึงตารางการซ้อมของแชมป์ไทย ไปจนถึงอนาคตของนักเต้นตัวน้อยแต่มีพรสวรรค์คนนี้

บาร์บี้คือแรงบันดาลใจ

ข้าวหอมเริ่มเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ เธอได้มีโอกาสดูหนัง “การ์ตูนบาร์บี้” และประทับใจกับท่าเต้นที่สวยงามและสง่างามของตัวการ์ตูนจนกลายเป็น “จุดประกาย” ให้กับข้าวหอมในการเริ่มต้นเส้นทางการเต้นของเธอ

“ฉันเริ่มเต้นเมื่ออายุ 3 ขวบโดยฝึกท่าบัลเล่ต์ง่ายๆ จากนั้นไปเต้นรำรูปแบบอื่น เช่น คอนเทมโพรารีแดนซ์หรือคอนเทมโพรารีแดนซ์ที่สามารถทำอะไรกับร่างกายได้ ออกจากกล่องกันเถอะ” ข้าวหอมกล่าว

มนต์เสน่ห์แห่งการเต้นรำที่พิชิตใจข้าวหอมเพียงหมัดเดียว เป็นความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อร่างกายเคลื่อนไหวอย่างอิสระตามจังหวะดนตรี เธอบอกว่าเธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจทุกครั้งที่เต้น

“ไอดอลของฉันคือ Natalia Osipova นักบัลเล่ต์ชาวรัสเซีย ปัจจุบันเขากำลังเต้นรำอยู่ที่ The Royal Ballet ในอังกฤษ ฉันชอบเขามากเพราะเขาเป็นนักเต้นที่สวย และอยากไปจุดนั้นเหมือนเขา” ข้าวหอมชี้

การแข่งขันที่รุนแรง

“มีช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกเหนื่อยและอยากหยุดเต้นเหมือนกัน เช่นปีนี้เป็นปีที่มีการแข่งขันค่อนข้างมาก แต่เป้าหมายของฉันคือการได้รับถ้วยรางวัล ฉันจึงตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง และพยายามทำให้ดีที่สุด”

มากพอที่จะมีเป้าหมายของตัวเอง ทำให้ข้าวหอมต้องทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก โดยเธอได้แบ่งปันตารางซ้อมกับเรา ซึ่งได้ฝึกฝนเกือบทุกวันจนถึงช่วงดึกเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ

“วันจันทร์ มาเรียน 06.30-20.00 น. วันอังคาร ซ้อม 06.30-19.00 น. วันพุธ มาเรียน 03.00-20.30 น. ปิดวันพฤหัสบดีและวันศุกร์และกลับมาที่สตูดิโอเต้นรำอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงเก้าโมงครึ่ง” ข้าวหอมชี้แจงตารางการฝึกของเขา

แต่ถึงแม้จะฝึกฝนอย่างหนัก แต่ข้าวหอมก็ไม่ละทิ้งการเรียน เธอยังคงจัดตารางเวลาของเธอให้เหมาะกับการเต้นและการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เธอยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนร่วมชั้นของเธอเสมอ

ความฝันที่สามารถไขว่คว้าได้

หลังจากได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าคนิษฐาธิราช เจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในประเภทคะแนนเดี่ยวสูงสุด (Aggregate Solo Cup) และได้รับตำแหน่งตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันนาฏศิลป์ระดับนานาชาติ ( การแข่งขันนาฏศิลป์เอเชียแปซิฟิก) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17 – 20 สิงหาคม 2566 ข้าวหอมทำให้คนไทยภาคภูมิใจอีกครั้ง เมื่อเธอสามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้มากมาย

“ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การเต้นด้วย เช่นเดียวกับคอนเทมโพรารีแดนซ์ก็ต้องมีความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จะต้องอยู่ในโลกของตัวเองและมีสมาธิให้มากซึ่งผมเป็นคนมีพลังงานมาก เวลาเต้นก็ต้องควบคุมตัวเองให้ดีที่สุด” ข้าวหอมกล่าว

เมื่อถามถึงความฝันของนักเต้นตัวน้อย ข้าวหอม บอกว่าเธอใฝ่ฝันที่จะเต้นรำที่ The Royal Ballet School เพราะมีฉากเต้นรำที่ใหญ่กว่าในประเทศไทย และมีการแสดงหลากหลายรูปแบบ ซึ่งข่าวหอมอาจจะเอาอาชีพนาฏศิลป์เป็นอาชีพหลักเลยก็ได้ เพราะเธอบอกว่าการเต้นก็เป็นอาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนเช่นกัน แถมยังได้เงินดีอีกด้วย

“สำหรับฉัน การเต้นรำให้มากกว่าความสนุกสนานและความสวยงาม แต่ยังสอนวินัยอีกด้วย” ข้าวหอมกล่าวสรุป